ปายอินเลิฟ...ปายอินเละ

[เฮีย]

ปายอินเลิฟ...ปายอินเละ
โดย ปิ่น บุตรี
10 มีนาคม 2553 16:29 น.

“ปายอินเลิฟ”

ปลายปีที่แล้วมีหนังชื่อนี้ออกมาฉาย หลายคนดูแล้วชอบ หลายคนดูแล้วไม่ชอบ ส่วนผมดูแล้วบอกได้คำเดียวว่า

“เสียดายตังค์”

แต่กระนั้นชื่อของปายอินเลิฟก็มีดีตรงที่มันปลุกให้ผมนึกถึงสมัยที่เคย“อินเลิฟปาย”เมื่อ ครั้งเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยหมาดๆ(10 กว่าปีที่แล้ว)ช่วงนั้นผมกับเพื่อนๆมีไฟฝันเต็มเปี่ยมจึงรวมกลุ่มกันไปเติม ความฝันที่เมืองปาย(อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน) ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นดัง“ยูโทเปีย ยูโทปาย”ของ ผู้เบื่อหน่ายแสงสีวิถีเมือง และผู้ที่คล้อยตามกระแสจากการสร้าง(ผ่านสื่อ)ของคนบางกลุ่ม(หลังผ่าน ประสบการณ์ที่ปายผมพบว่าตัวเองเข้าข่ายในอย่างหลัง)

ทว่า...บางครั้งความฝันกับความจริงมันไปด้วยกันไม่ได้ ผมจึงจากปายมาด้วยความสึกเสียดายอยู่ในที
มาวันนี้คืนเปลี่ยนวันผ่านเมื่อนึกถึงปายผมยังคงเสียดายอยู่เหมือนเดิม แต่เป็นความเสียดายที่เกิดจากการที่ปายถูกกระแสธารการท่องเที่ยวแบบไทยๆที่ ขาดการวางแผนจัดการโหมกระหน่ำรุมเร้าจนกลายเป็นปายอย่างในทุกวันนี้ ชนิดที่ในเขตเมืองเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

แต่โลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยน เพียงแต่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงเท่านั้น

ปายอินเลิฟ 1

ปายกับผมถือว่าตัดกันไม่ขาด แม้จะจากมาเพราะฝันสลายแต่ก็มีโอกาสกลับไปเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยครั้ง เห็นความเปลี่ยนผ่านของปายในหลายมิติ ตั้งแต่ยุคเมื่อแรกเริ่มเปิดเมืองสู่โลกการท่องเที่ยวเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว

ปายยุคนั้นเริ่มเป็นที่รู้จักของพวกแบ็คแพ็คเกอร์ในฐานะ เมืองผ่าน-เมืองพักกลางทางจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน แม่ฮ่องสอนไปเชียงใหม่ แต่ด้วยความที่ปายเป็นเมืองสวยงามกลางหุบเขา มีธรรมชาติ ทิวทัศน์ท้องทุ่งนา วิถีอันพิสุทธิ์เรียบง่าย และน้ำใสใจจริงของชาวบ้านเป็นต้นทุน และมียาให้พี้สำหรับนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม พวกเขาจึงหลง“รักปาย” เริ่มอยู่นานขึ้น เริ่มบอกต่อ ทั้งปากต่อปากและบอกผ่านไกด์บุ๊ค

ความนี้เมื่อรู้ถึงคนไทย หลายคนเริ่มเดินทางเข้ามาปาย แรกๆแค่เพียงมาเที่ยว มาพักผ่อน ต่อจากนั้นเริ่มหลง“รักปาย”ติดใจในบรรยากาศและวิถีว่านี่คือยูโทปาย เมืองในฝัน ที่เหมาะสำหรับผู้เบื่อหน่ายวิถีอันพลุกพล่านเมืองใหญ่ บางคนจึงเบนเข็มชีวิตขออยู่ปายยาว ทั้งมาขอเช่าบ้านจากชาวบ้าน มาขอซื้อที่ทาง เพื่อทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเล็กๆน้อยๆ

จากนั้นดูเหมือนว่าปายจะเริ่มดังแบบฉุดไม่อยู่ คนที่บอกว่า“รักปาย”ต่างเดินทางเข้ามามากขึ้น ทั้งมาท่องเที่ยว มาขายของ มาทำธุรกิจ มาทำรีสอร์ต มาเล่นดนตรี มาทำงานอาร์ต มาแอ๊คอาร์ต และ ฯลฯ จนคนในพื้นที่ที่เป็นคนปายแท้ๆ หลายคนเริ่มถอยห่าง บางคนขายที่ทิ้งไปเลย บางคนให้เช่าที่ แล้วหนีความวุ่นวายพลุกพล่านที่ไม่ใช่วิถีออกไปอยู่เงียบๆนอกเมืองดังเดิม

ทำให้คนใน(พื้นที่)จำนวนหนึ่งต้องกลายเป็นคนนอก(พื้นที่)ไปโดยปริยาย
ปายอินเลิฟ 2

หลังคืนเปลี่ยนวันผ่าน ปายก้าวผ่านจากยุคยูโทปายเข้าสู่ยุคโมเดิร์นปายที่ไม่เพียงแต่กลายเป็นเมือง แปลกหน้าของคนใน(พื้นที่)เท่านั้น หากแต่ยังกลายเป็นเมืองที่จะดูไม่ค่อยโสภาสำหรับคน“รักปาย”ในยุคแรกๆอีกด้วย สำหรับผมมองปายแบบปลง แต่ก็ยอมรับว่าปายยุคใหม่มีทั้งมุมที่น่ายลและไม่น่ายล ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

แต่กระนั้นปายยุคใหม่กลับแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา

ปายกลายเป็นเมืองทอล์คออฟเดอะทาวน์ของคนกลุ่มหนึ่ง

ปายเป็นเมืองที่แวดวงของคนกลุ่มหนึ่งกำหนดกันทางสังคมของพวกเขาว่า“ต้องไปปาย” ใครไม่ไปเชย-เอ้าท์

ปายเป็นเมืองที่ถูกนำไปโชว์ในไฮไฟท์ เฟสบุ๊ค มากที่สุดของไทย
และปายถูกกำหนดให้เป็น“เมืองมีสไตล์ มีรสนิยม”ตามทัศนะของ นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบปาย(มีปริมาณมากพอสมควร) ซึ่งเท่าที่มีโอกาสไปสัมผัสและมองผ่านการสังเกตการณ์ เห็นว่ารสนิยมแบบปายๆมีทั้งที่เป็นไปตามธรรมชาติและเป็นไปแบบฝืนธรรมชาติ

โดยอย่างหลังนี่เกิดจากความต้องการของคนนอกจำนวนหนึ่ง ทั้งพวกหวังดี พวกอีโก้ พวกแสวงหาผลประโยชน์ ต่างมองปายในมุมของพวกเขาแล้วจับยัดความคิดจริตของตัวเองเข้าไป เพื่อให้ปายเป็นอย่างที่เขาต้องการโดยที่คนในได้แต่มองตาปริบๆ

...น้องเม(เมถุน)อยากให้ปายเป็นแบบนั้น พี่วิด(วิตถาร)ต้องการให้ปายเป็นแบบนี้ น้องมล(มลพิษ)อยากให้ปายเป็นอย่างโน้น น้องเดือน(ไส้เดือน)คิดว่าน่าจะเป็นแบบนู้น น้องวิ(วิปริต)เห็นว่าปายควรเป็นอย่างน้าน และอื่นๆอีกมากมาย

แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นและชวนคลื่นเหียนไม่น้อยก็คือ กลุ่มคนเหล่านี้มักจะมีเหตุผลรองรับสวยหรู มีวาทะกรรมสวยงาม สรุปความได้แนวเดียวกันว่า

“เพราะรักปายไงจึงอยากให้ปายเป็นแบบนี้”(อย่างที่พวกเขาต้องการ)
ปายอินเลิฟ 3

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองศิลปะ บางคนก็ดูดี บางคนก็เข้าท่า บางคนก็บ้าบอ บางคนก็เพ้อเจ้อ ในขณะที่งานศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวบ้านนั้นกลับถูกคนพวกนี้มอง ว่ามันไม่“อาร์ต”พอ

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองดนตรี ที่มีทั้งบลูส์ แจ๊ซ ร็อค เพื่อชีวิต เร็กเก้-สกา รักโรแมนติค เปิกหมวก อินดี้ เล่นกันตั้งแต่รอบนอกไล่เข้ามาถึงเกือบตลอดช่วงของถนนคนเดิน ทิ้งให้กลุ่มผู้สูงอายุบ้านป่าขามนั่งเล่นดนตรีพื้นบ้าน สะล้อ ซอ ซึง รับการบริจาคกันอย่างค่อนข้างเงียบเหงานักท่องเที่ยว

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองคอนเสิร์ต ที่พอหนาวทีไร จะมีคอนเสิร์ตสารพัดมาลง ทั้งแนวรักโรแมนติก เร็กเก้-สกา Woodstock อินดี้ โดยคนดูส่วนใหญ่ดูดมาจากกรุงเทพฯ แถมยังจัดกันถี่ยิบชนิดที่มีข่าวออกมาว่า ชาวบ้านปายส่วนหนึ่งต้องไปหาหมอเพื่อเข้ารักษาสุขภาพจิตอันเนื่องมาจาก ความเครียดจากเสียงดังของคอนเสิร์ต

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองอินดี้ ที่บรรดาร้านรวง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านโปสการ์ด ป้ายบอกทาง เสื้อผ้า ของที่ระลึก ต้องมีดีไซน์ มีไอเดีย จะเปิดขายแบบธรรมดาไม่ได้ ในขณะที่คนมาเที่ยวทำอะไรให้มันดูหลุดๆ แนวๆ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่อินดี้

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองอีเวนต์ที่พวกเอเยนซี่ต่างหาช่องทางจัด งานหาเงินจากคนเมืองที่มาเที่ยวกันให้ควัก ทั้งจัดคอนเสิร์ต จัดแต่งงาน จัดงานศิลปะ จัดเทศกาลหนัง จัดงานหนังสือ จัดกิจกรรมลดโลกร้อน
และเพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองอย่างที่เขาเป็น ซึ่งถ้านช.คนหนึ่งไม่ถูกยึดทรัพย์ลูกชายเขาอาจมาลงทุนทำปายเป็นเมืองสวนสนุก เหมือนอย่างที่กรุงเทพฯก็เป็นได้ หรือไม่อย่างนั้นในอนาคต อาจมีคนคิดทำปายเป็นเมืองโปสการ์ด คิดทำปายเป็นเมืองตู้ไปรษณีย์ คิดทำปายเป็นเมืองหลักกิโลเมตร คิดทำปายเป็นเมืองเกาหลี(โคเรียนทาวน์) เป็นต้น

ครับและนั่นก็คือความรักปายของคนในหลายกลุ่มที่อยากให้ปายเป็นอย่าง โน้นอย่างนี้ตามที่เขาต้องการ สำหรับผมคนเคยรักปาย(แต่วันนี้ก็ไม่ชังปาย)ไม่ได้มีความต้องการอยากให้ปาย เป็นเมืองมีรสนิยมอย่างที่ใครหลายคนต้องการ แต่เพียงแค่อยากเห็นคนในและคนนอกปาย ทั้งชาวบ้าน ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว ภาครัฐ และคนที่บอกว่ารักปายทั้งหลาย หันมามองปายอย่างจริงจัง แล้วร่วมมือกันแก้ไขในปัญหาสิ่งบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งวางแผนบริหารจัดการปายใหม่ ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีการวางผังที่ดี มีการจัดโซนนิ่งของย่านต่างๆ มีการควบคุมความเสื่อมบางอย่างของปายส่วนใน(เขตเมือง ถนนคนเดิน)ไม่ให้ไหลล้นออกไปปายส่วนนอก และแก้ไขในความเสื่อมเหล่านั้นให้ดีขึ้น มีการควบคุมดูแลไม่ให้ใครนึกจะมาทำอะไรที่ปายก็ได้ มีการรื้อฟื้นส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของปายให้คนปายได้สืบสานให้ คนนอกได้รับรู้

สำหรับสิ่งเหล่านี้ล้วนต่างเป็นองค์ประกอบที่จะช่วยเกื้อหนุนให้ปาย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีดีกว่าปัจจุบัน และเพื่อไม่ให้ปายอินเลิฟของใครหลายๆคนกลายสภาพเป็น“ปายอินเละ”(กว่าทุกวันนี้) จนยากจะหาหนทางเยียวยา

อ่านมาจาก http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000033875&Keyword=%bb%d2%c2%cd%d4%b9%e0%c5%d4%bf

[เฮีย]

อ่านจบแล้ว เด๋วจะคอมเมนต์..
แต่ตอนนี้เอาคอมเมนต์ที่อยู่ในนั้นมาแปะก่อน คนนี้เมนต์ได้มันทีเดียวเชียว


ความคิดเห็นที่ 33

ถึงคุณปิ่น บุตรี

คุณต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณเขียน ไม่ใช่อยากจะโยนขี้ใส่ใครแล้วก็ตัวเองก็เปิดตูดไป ทิ้งไว้เพียงสิ่งที่ตัวเองอยากพ่นไปวันๆ

ใน เมืองปายมันคือเขตเมือง ในเมืองมันก็ต้องอุดมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างอยู่แล้วเป็นธรรมดา ถ้าคุณมาว่าสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นคือ เละ เมืองไทยมันก็เละไปทุกที่ ที่ไหนมันจะดีอย่างเมืองนอก สวิต เยอรมัน อย่างที่คุณเขียนชมนักชมหนาล่ะ

ชอบสนับสนุนการท่องเที่ยวต่างประเทศมากหรอคุณน่ะ ผมเห็นงานเขียนคุณไม่เห็นเมืองไทยที่ไหนที่คุณว่ามันดีเลย

ออก ไปนอกเมืองสะบ้างสิไปปายน่ะ ใรไปปายก็เดินกันอยู่แค่กระจุกตรงนั้นน่ะ ไปแวะกินข้าว เดินไปเดินมา ดูเมืองเขาแล้วก็บอกเมืองมันเละ หัดออกไปชมโลก ชมธรรมชาติบ้าง

ล่องแก่งแม่น้ำปาย ไปหรือยัง ?

เดินป่าเข้าแม่เย็น เที่ยวน้ำตก ไปหรือยัง?

ปั่นจักรยาน ขึ้นเขา ไปหมู่บ้านชาวจีน ไปน้ำตก ไปหรือยัง ?

ผม ยืนยันนะ ถ้าคุณเป็นเพียงพวก" นักท่องเที่ยวฉาบฉวย " คุณอย่าไปเจือกวิจารณ์ที่ไหน ว่ามันดีหรือไม่ดีเลย หากไม่ได้ลองอยู่และสัมผัสที่นั้นสัด อาทิตย์หรือสองอาทิตย์ กับแค่ไปแวะกินข้าวแล้วมาบอกว่ามันเละตามกระแสน่ะ

ฮิตจังล่ะ กะคำพูดว่า "ปายเปลี่ยนไปเนี้ย"
ใครไปปาย วันสองวัน ก็บอกเปลี่ยนไป มันเละ ไปมากี่ครั้งถึงได้ไปวิจารณ์เขา ว่าเขาเปลี่ยนไปน่ะถามหน่อย

ถามว่า คนปายที่ค้าขายเขาชอบนักท่องเที่ยวที่ไป 2 วัน 1 คืน แบบ ฉาบฉวยอย่างพวกคุณที่ไปเดินกันให้เต็มถนนจนแน่นเอียดไหมฤดูหนาวไหม ?

ตอบ เลยว่า ไม่ชอบ และไม่มีใครต้องการเลย ถึงคนอย่างนี้จะไปบอกไปพูดว่าปายเปลี่ยนไป ปายมันเละ ไม่น่าไปแล้ว เขาก็ไม่สนใจ เพราะนักท่องเที่ยว แบบ 2 วัน 1 คืน อย่างพวกคุณ พวกฉาบฉวยแบบพวกคุณ เขาไม่ต้องการเลย

ผิดกับช่วงฤดูฝน ฤดูร้อนที่มีแบคแพคเกอร์ฝรั่ง ไทย ที่ไปพักผ่อนกัน สัปดาห์ 2 สัปดาห์ไม่ได้ บางคนมาอยู่เป็นปี เป็นเดือนมากมาย หรือแม้แต่ พวกอาร์ตๆมาเปิดร้านกาแฟ ร้านโปสการ์ด ร้านรูป ที่เลียนแบบกันไปทั่วประเทศเนี้ย พวกนี้ต่างหากที่คนปายชอบและต้องการ เพราะเขามาปายด้วยใจรัก และรักที่นี้ มาเพื่อพักผ่อน มาเพื่ออาศัย นี้ต่างหากคือ นักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่คนปายต้องการ

อย่างพวกคุณที่ ชอบวิจารณ์ทั้งที่เคยไปเหยียบปาย ไม่ทันข้ามวัน ผมเองก็สาธุว่าอย่ากลับไปอีกเลยก็จะดี และขอให้คุณคิดอย่างนั้นไปตลอดแล้วกันจะได้ไม่ต้องไปอีก เพราะมันน่าเบื่อมากเวลาที่นี้มีคนมาเยอะๆ

ถามว่าคนที่ชอบปายเขามาทำไมกัน
ตอบ ว่า เขามาพักผ่อน พักในเมืองปายที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แล้วก็ขับมอไซหรือขี่จักรยานไปเที่ยวนอกเมือง ไปเที่ยวธรรมชาติที่อยู่นอกเมืองซึ่งรายล้อมไปด้วยป่าเขา ต้นไม้ แม่น้ำ (คุณที่มาเคยไปมั้งไหมนอกจากเดินอยู่ในเมือง) แน่นอนและถูกที่ในตัวเมืองเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ แต่อย่าลืมว่าที่นี้ คือ อำเภอ และใหญ่เป็นอันดับสองรองก็จากอำเภอเมือง เป็นแหล่งค้าขาย ศูนย์กลางการค้าของจังหวัด มันก็ต้องมีสิ่งก่อสร้างมากมายเป็นธรรมดา ไม่ว่าอำเภอไหนที่เป็นถนนหลักมันก็มีทั้งนั้น

แต่ ที่เขารักปายก็เพราะว่านอกจากสิ่งเหล่านั้น อำเภอนี้มันอยู่กลางโอบเขาที่ห้อมล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ใช่ตัวเมืองที่คุณเห็น เทศบาลที่นี้เขาก็รักปาย เขาก็มีกฎห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างอาคารสูง 3 ชั้นขึ้นไปเขาก็ห้ามแล้ว เพื่อให้เมืองน่าอยู่ ส่วนที่คุณเห็นว่าปายทำไม ไม่มุงแฟก ทำหลังคาด้วยไม้หรือใบตองตึงน่ะ เพราะเขาห้าม เนื่องจากกลัวเรื่องเพลิงไหม้ ซึ้งเกิดขึ้นบ่อยจากไฟป่า เขาเลยหันมามุงหลังคาแทน เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน เรื่องนี้ก็ต้องรู้ไว้ ไม่ใช่เที่ยวด่าคนอื่นไป โดยไม่รู้

จะว่าไป คุณก็มาว่าคนขายกาแฟ คนขายเหล้าเมืองปายหากินกับปายปูยี้ปูยำ คุณก็ไม่ต่างกันที่ก็หากินกับปาย โดยใช้บทความเขียนถึงปายมาหากิน ใช้คำว่า ปาย อนเลิฟ ปายอินเละ ใครเห็นคำว่า ปาย ก็สนใจจะอ่าน เขียนถึงปาย ก็เอาปายมาหากินเหมือนกัน แถมมาว่าเขาอีก ทั้งที่คุณก็ไม่ต่างกัน และคนที่มาอยู่ปายเขาก็ไม่เคยมาว่าที่นี้เหมือนคุณ

ใช่ ผมคนที่นี้ ไม่ได้เกิดที่นี้ แต่อยู่นี้มา 10 ปี เรียนจบจากบางกอก เป็นคนบางกอก เหมือนพวกคุณ ผมรักที่นี้และรับไม่ได้หากใครมาว่าบ้านผมว่าเละ และก็ยังใช้การว่านั้นเพื่อหากิน หากินโดยการวิจารณ์คนอื่นในทางเสียหาย

ผม อยู่ที่นี้มา 10 ปี ก็ไม่เห็นที่นี้เปลี่ยนไปตรงไหน แน่นอน รีสอร์ทมากขึ้น ร้านเหล้า ร้านอาหารมากขึ้น เป็นเรื่องธรรมดากับที่ที่มีคนมามากๆ จะน่าเบื่อก็ฤดูหนาวนี้แหละที่คนเยอะจนน่าเบื่อ ถึงอย่างไนหากเอาปายไปเทียบกับเมืองอื่นๆที่นี้ก็ยัง สงบเงียบอยู่ดี

ใคร ที่ชอบธรรมชาติดิบๆ ชอบกางเต๊น แนะนำให้ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาตินะครับ อย่ามาปายเลย ไปห้วยน้ำดังก็ได้ใกล้ๆ ที่นี้ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติ ไม่ใช่ที่เที่ยวแนวนั้น มันไม่เหมือนกันอย่าเอาไปเปรียบเทียบ ถ้าอยากเงียบงัน สงบๆจริงๆ แนะนำให้ไปเที่ยวแม่สลองแทน

ปายมันเป็น เมืองอินดี้ ที่ตอบโจทย์ความสบายๆ ที่ไม่เรื่องมาก ในราคาที่สบายๆ หากคุณมีเงิน 3000 คุณไปไหนได้บ้างในเมืองไทย คุณอาจไป พงัน ไป เชียงใหม่ ไปเสม็ด ไปกาญ ไปอุทยานแห่งชาติที่ไหนสักที

แต่เงิน 3000 บาท ของแบกแพคเกอร์ ปาย คือ คำตอบสำหรับเขา คุณมาจาก กทม - ปาย ไปกลับ ไม่เกิน 1500 คุณสามารถอยู่ที่นี้ได้ 4 วัน 3 คืน ด้วยเกสเฮ้าราคาถูก ไม่เกิน 150 แถมเหลือเงินให้คุณหาร้านชิวๆนั่ง กินอาหารราคาเหมือนแถวบ้าน หาเช่าหนังสืออ่าน นั่งห้อยขาในน้ำ เช่าจกรยานขี่ไปรอบเมืองและนอกเมืองสบายๆกับวันหยุดง่ายๆ สักครั้ง

ถามว่าคุณสามารถทำได้ไหม ในที่อื่นกับเงินเท่านี้ อาจได้นะ แต่เป็น 2 วัน 1 คืน เพราะไม่ว่าอะไรก็แพงไปหมด

อีก อย่างที่เขาชอบ เพราะที่นี้ปลอดภัยมาก ฝรั่ง ไทย ก็ปลอดภัย จอดรถแทบไม่เคยต้องถอดกุญแจรถ มืดๆ ดึกๆ เดินไปดริ้ง เดินกลับบ้านก็ไม่ต้องกลัวใครมาจี้มาปล้น เหมือนเมืองชายทะเล

นี้ต่างหากที่คือสิ่งที่ตอบโจทย์ แบกแพคเกอร์ไทย เทศ ที่ถ้าคุณไม่มาพักผ่อน คุณไม่มีทางเข้าใจ ปาย

"อย่ามาเที่ยว จงมาอยู่สักพัก แล้วคุณจะรู้เองว่าที่นี้ เมืองปาย น่าอยู่กว่าที่ไหนๆ"
ร้านกาแฟร้าน 1

[เฮีย]

เมนต์นี้ก็หรอยแรงแฮะ

ความคิดเห็นที่ 24

- อย่าตีราคา ปาย หากคุณ ไปปายเพียง 1 ครั้ง

- อย่าตีราคา ปาย หากคุณ ไปปายเพียง 1 คืน

- อย่าตีราคา ปาย เพียงหน้าตา ในฤดูการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยผู้คน หากคุณ ไม่เคยไปปาย ใน เดือน พฤษภา หรือเดือนนี้

คุณ คิดว่าปายจะเป็นเช่นไร หาก ปายไม่ใช่เมืองของการท่องเที่ยว และยังเป็นเมืองที่ ฝรั่งมาเที่ยวเพียงเพื่อหากญชาและฝิ่น อย่างเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

ปายไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวขอย้ำ แต่ ปาย คือเมืองแห่งการมาเพื่อพักผ่อน มาเพื่อใช้ชีวิต และเป็นสังคมแห่งการพึ่งพาอาศัยที่คนเมืองต่างแสวงหา

ไม่ใช่คนที่คุณ ด่าเขาอยู่หรือที่ทำให้คนในพื้นที่มีรายได้ มีภาษีมากมายให้เก็บเพื่อนำมาพัฒนาเมือง หากคุณ(เมเนเจอร์ออนไลน์) ยังทำตัวตีราคาเมืองปาย ว่าเป็นเมืองเละๆและโทษคนกรุงว่ามาทำลายความสวยงามของที่นี้
คุณเองก็ไม่ได้ต่างจากคนพากนั้นเช่นกันเพราะจงจำไว้ว่าคุณก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ที่นี้เปลี่ยนไป

สังคม เมืองปายเป็นสังคมของการพึ่งพาอาศัย คนกรุงกับคนพื้นที่ ร้านกาแฟกับคนปลูกกาแฟ ร้านอาหารกับคนปลูกผักเก็บผัก คนกรุงที่อยู่ปาย กับคนปาย เขาเข้าใจซึ่งกันและกันดี

มีเพียงพวก "นักท่องเที่ยวฉาบฉวย" อย่างพวกคุณเท่านั้นที่มาปายเพียง 2-3 คืน และบอกว่าที่นี้ไม่เห็นมีอะไร คนก็เยอะ แออัด ไม่เห็นจะเงียบสงบเลย ไม่เห็นน่าเที่ยว เดี๋ยวก็เปลี่ยนไป

ถามว่า ใครใช่ให้คุณมาเที่ยวปาย ฤดูหนาวล่ะ ทั้งที่ ที่นี้มันก็หนาวทุกฤดู ใครใช่ให้คุณมาเที่ยว วันหยุดยาวล่ะ ใครใช้ให้มาเที่ยวที่นี้ในเดือนธันวาคมล่ะ

ที่ไหนในประเทศไทย หากคุณเที่ยวตามฤดูกาล คุณก็จะเจอคนเยอะๆ เมืองแออัด คนแน่นๆ ทุกที่นั้นและ ลองไปภูกระดึงเดือนธันวาคมวันเสาอาทิตดูสิ

ทั้งฝรั่ง และแบกแพคเกอร์ชาวไทย มักไม่มาเที่ยวปายในวันเหล่านี้เขาจะมาในเดือนที่ไม่ใช่ฤดูหนาว นั้นล่ะคุณก็จะเจอกับปายในวันที่คุณเฝ้าฝันและกำหนดกฎการณ์อยากให้มันเป็น

ปาย มันต้องเป็น ปาย บ้านนอก ปายล้าหลัง ปายงมโข่ง เพื่อให้พวกคุณ มาเที่ยว วันสองวันนั้นหรือ ถ้างั้นคุณก็ไม่ต่างจากคนอื่นที่ตัดสินให้ปายเป็น

ไม่ คิดบางหรือว่าคนเมืองปายเขาก็อยากจะอยู่ตรงกึ่งกลางวัฒนธรรม ระหว่างเมืองและชนบทอย่างกลมกลืน เขาก็อยากมี 7- 11 อยู่กลางหุบเขา เขาก็อยากมีโรงเรียน โรงพยาบาลดีๆจากภาษีที่เก็บมาจากรีสอ์ทต่างๆ เขาก็อยากมีถนนหนทางดีๆที่ไม่มีฝุ่น เขาก็อยากมีรถกระบะคันโก้ขับอย่างคุณ ด้วยการ ปลูกชา ปลูกกาแฟ ปลูกผัก ขาย ร้านอาหารและร้านกาแฟ

ถามว่าคนเมืองปายชอบให้คนมาเที่ยวเยอะๆอย่างเดือนธันวาไหม

ตอบเลยว่า ไม่มีใครอยากและไม่ชอบด้วยแม้ได้เงินเยอะ และคนเมืองปายก็ไม่ชอบ
" นักท่องเที่ยวฉาบฉวย" ที่มาปายคืนสองคืนเหมือนทัวร์ลูกเป็ด เสร็จกลับบ้านก็บอกปายเปลี่ยนไป ทั้งที่เราก็อยู่ของเราดีๆ ดูแลซึ่งกันและกัน ต้อนรับผู้มาเยือน และต้อนรับผู้มาอยู่ใหม่เสมอ

เพราะที่นี้ คือเมืองที่อยู่ กึ่งกลางของวัฒนธรรม ชนบทและเมือง อย่างลงตัว ซึ่งมันก็เป็นของมันอย่างนี้ และต่อไป

อย่ามาตัดสินให้เราเป็น บ้านนอก อย่างที่คุณอยากให้เราเป็น เพียงเพื่อ พวกฉาบฉวยข้ามคืน และจากไปและกลับมาด่าเราว่า

"ไปมาแล้วไม่เห็นมีอะไร"

"ปายเปลี่ยนไป"

ย้ำ ที่นี้ไม่ใช่เมืองแห่งการท่องเที่ยว(ฉาบฉวย) แต่ที่นี้คือที่แห่งการใช้ชีวิต และการพักผ่อน
ต้องบอกไหมว่าคนที่ไหน

[เฮีย]

...น้องเม(เมถุน)อยากให้ปายเป็นแบบนั้น พี่วิด(วิตถาร)ต้องการให้ปายเป็นแบบนี้ น้องมล(มลพิษ)อยากให้ปายเป็นอย่างโน้น น้องเดือน(ไส้เดือน)คิดว่าน่าจะเป็นแบบนู้น น้องวิ(วิปริต)เห็นว่าปายควรเป็นอย่างน้าน และอื่นๆอีกมากมาย

แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นและชวนคลื่นเหียนไม่น้อยก็คือ กลุ่มคนเหล่านี้มักจะมีเหตุผลรองรับสวยหรู มีวาทะกรรมสวยงาม สรุปความได้แนวเดียวกันว่า

“เพราะรักปายไงจึงอยากให้ปายเป็นแบบนี้”(อย่างที่พวกเขาต้องการ)

ตอบ
การเป็นนักเขียน มันให้โอกาสกับคุณในการจิกด่าคนได้ขนาดนี้เชียวหรือ การยัดเยียดชื่อคนให้สัมพันธ์กับความหยาบในสันดานของคุณเอง แล้วสรุปเองเออเองว่า “เพราะรักปายไงจึงอยากให้ปายเป็นแบบนี้” มันไม่มักง่ายในการเขียนไปหน่อยหรือ

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองศิลปะ บางคนก็ดูดี บางคนก็เข้าท่า บางคนก็บ้าบอ บางคนก็เพ้อเจ้อ ในขณะที่งานศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวบ้านนั้นกลับถูกคนพวกนี้มอง ว่ามันไม่“อาร์ต”พอ

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองดนตรี ที่มีทั้งบลูส์ แจ๊ซ ร็อค เพื่อชีวิต เร็กเก้-สกา รักโรแมนติค เปิกหมวก อินดี้ เล่นกันตั้งแต่รอบนอกไล่เข้ามาถึงเกือบตลอดช่วงของถนนคนเดิน ทิ้งให้กลุ่มผู้สูงอายุบ้านป่าขามนั่งเล่นดนตรีพื้นบ้าน สะล้อ ซอ ซึง รับการบริจาคกันอย่างค่อนข้างเงียบเหงานักท่องเที่ยว

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองคอนเสิร์ต ที่พอหนาวทีไร จะมีคอนเสิร์ตสารพัดมาลง ทั้งแนวรักโรแมนติก เร็กเก้-สกา Woodstock อินดี้ โดยคนดูส่วนใหญ่ดูดมาจากกรุงเทพฯ แถมยังจัดกันถี่ยิบชนิดที่มีข่าวออกมาว่า ชาวบ้านปายส่วนหนึ่งต้องไปหาหมอเพื่อเข้ารักษาสุขภาพจิตอันเนื่องมาจาก ความเครียดจากเสียงดังของคอนเสิร์ต

เพราะรักปาย(ไง) คนกลุ่มหนึ่งจึงอยากให้ปายเป็นเมืองอินดี้ ที่บรรดาร้านรวง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านโปสการ์ด ป้ายบอกทาง เสื้อผ้า ของที่ระลึก ต้องมีดีไซน์ มีไอเดีย จะเปิดขายแบบธรรมดาไม่ได้ ในขณะที่คนมาเที่ยวทำอะไรให้มันดูหลุดๆ แนวๆ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่อินดี้



ตอบ
เราว่าไม่มีใครไปกำหนดให้ปายเป็นหรือไม่เป็นอะไรอย่างที่คุณคิดหรอก อย่าว่าแต่ปายเลย ประเทศนี้ทั้งประเทศก็ไม่เคยกำหนดทิศทางอะไรได้ด้วย คุณพอจะเข้าใจอะไรง่ายๆเเป็นไหม ไม่มีใครเค้าตั้งต้นว่าฉันรักปาย ฉันจึงทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันกระแดะไปหน่อยมั้ง และอย่าหัดคิดแทนคนอื่นว่าเค้าดูถูกศิลปะพื้นบ้าน ไม่มีใครเค้าดุถูกกันหรอกครับ ชาวบ้านไม่ได้เป็นศัตรูกับคนต่างถิ่นอย่างที่คุณพยายามยัดเยียดให้ ทั้งหมดทุกคนต่างมีความสัมพันธ์ เอื้อเฟื้อ และพึ่งพาอาศัยกันในระดับหนึ่ง สังคมปายไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณนักเขียนผู้รอบรู้อย่างคุณคิดหรอกนะครับ หรือการที่คุณพยายามแขวะความติสต์ การดีไซน์ ว่าทำไมไม่ทำแบบธรรมดา เราว่าคุณโคดแคบเลย ความคิดสร้างสรรค์เป็นความน่ารัก และมันก้ต้องมีถูกใจหรือไม่ถูกใจกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ก็เหมือนกับคุณที่พยายามใช้ภาษา หาสำนวนเปรียบเปรย ให้ดูว่ากูฉลาด กูเที่ยวเป็น กูเขียนเท่ห์ กูเคารพท้องถิ่น กูไม่เปลี่ยนแปลง ทำไมล่ะคุณก็พยายามเขียนให้ดูดี ดุหล่อ ดูมีความคิดสร้างสรรค์อยู่มิใช่หรือ แล้วคุณเองก็หากินกับปาย มากี่บทความแล้วล่ะครับ ยังไม่พออีกหรือ หรือเป็นงานประจำปีที่จะต้องวนมาลงที่ปายทุกๆปี
ผมว่าความรักปาย มันจะคล้ายๆกับการรักบ้านของคุณเอง เมื่อคุณอยู่กับมันนานพอ มีความผูกพันธ์มากพอ ปายอาจจะมีดี หรือไม่ดีบ้างแต่ไม่มีใครอยากทำลายบ้านของตัวเองหรอกครับ ได้โปรดอย่าแสดงความห่วงปาย แต่หลอกด่าคนนู้น คนนี้ไปเรื่อย เพียงแค่ว่าคุณเป็นนักเขียน มีสื่อลงให้คุณ อยากหากินกับตัวหนังสือก็ทำไปเถอะครับ แต่อย่าไปเที่ยวบ้านคนอื่นเพียงครั้งละ 2-3 วัน แล้วก็แสดงความเห็นหยาบๆอย่างที่คุณพยายามอยู่ทำอยู่เลย
ด้วยความรำคาญครับ

[ilovepai.com]

เม้นสุดท้าย ของเฮีย ป่ะคร้าบ

[Surajeed]

อยากถามคุณคนนี้กลับอ่ะ ด่าเค้าแล้ว ช่วยคิดวิธีแก้ให้หน่อยดิ
ว่าปายควรเป็นไปในแบบไหน อยากรู้ว่าจะน่าฟังหรือเปล่า

[iMenn]

อ่านแล้วชอบคอมเม้นท์ตอบทั้งหลายครับ

มีคนเอาปายมาหากิน ด้วยการด่าว่ามีคนเอาปายมาหากิน ด้วยการด่าว่ามีคนเอาปายมาหากิน ...